ใกล้ถึง Air Max Day กันแล้วซึ่งก็คือ 26 มีนาคมของทุกปี และที่สำคัญปีนี้ยังเป็นครบรอบ 30 ปีของ Air Max 90 รองเท้า Air Max ระดับตำนานจากปี 1990 มีอีกชื่อคือ Air Max III เพราะตั้งใจจะให้เป็นรองเท้ารุ่นที่ 3 ต่อจาก Air Max Light แต่กลายเป็นว่า Air Max 90 เป็นรุ่นที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นรุ่นที่ 2 ต่อจาก Air Max 1 จากปี 1987 และยังมี Air Max 90 ในรูปแบบต่าง ๆ ผลิตมาเรื่อย ๆ SEEK จะพาไปทำความรู้จักกับ Air Max 90 รุ่นต่าง ๆ ครับ

The OG - Air Max 90

จะเปิดตัว Air Max 90 รุ่นต่าง ๆ ไม่ได้ถ้าไม่พูดถึง The OG ของ AIr Max 90 ซึ่งก็คือ Air Max 90 รองเท้า Air Max จากปี 1990 รุ่นนี้มีการพัฒนาจาก Air Max 1 ซึ่งจริง ๆ แล้วรองเท้ารุ่นนี้จะไม่ได้เป็นรุ่นที่ต่อจาก Air Max 1 จริง ๆ เพราะรองเท้ารุ่นนี้จะถูกออกแบบเป็นรองเท้า Air Max รุ่นที่ 3 เพราะ Air Max รุ่นที่ 2 จริง ๆ แล้วทาง Nike ตั้งใจจะให้ Air Max Light เป็น Air Max รุ่นที่ 2 โดยในรุ่น Air Max 90 ได้มีการปรับในส่วนประกอบต่าง ๆ ทั้ง Air Bubble ที่ใหญ่ขึ้น Upper ที่ใช้ Duromesh ที่มีความทนทานมากขึ้น รวมถึงการเพิ่ม Detail ต่าง ๆ เช่น Mudguard Midsole ที่สูงขึ้น และด้วยความนิยมของรองเท้ารุ่นนี้ ทำให้เป็นหนึ่งในรองเท้า Retro Style ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งจนทำให้มี Air Max 90 ในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมา

Air Max 90 + Free Midsole - Air Max 90 Current

ในปี 2008 Nike ได้ผุดไอเดียใหม่ผนวกกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกับ Free ในรองเท้า Air Max 90 Current รองเท้ารุ่นนี้เป็นการนำ 2 เทคโนโลยีที่พื้นรองเท้ามารวมเข้าด้วยกันทั้งการนำ Free Technology ที่ช่วยให้ลงก้าวได้ดียิ่งขึ้นกับ Air Cushion ที่รองรับได้ดีทุก้าว และรองเท้ารุ่นนี้มีความโดดเด่นอีกอย่างคือเป็นรุ่นที่ได้รับการทำ Collaboration กับศิลปินชาว New York อย่าง DQM กับ Air Max 90 Current “DQM Bacon” ซึ่งเป็นที่โด่งดังจาก Version ดั้งเดิมที่ใช้ Air Max 90 มาใช้ในปี 2004

One of Vac-Tech Collection - Air Max 90 VT

ในปี 2011 Nike ได้ผลิตรองเท้า Collection พิเศษซึ่งใช้เทคโนโลยีขึ้นรูป Upper แบบใหม่ที่เรียกว่า Vac-Tech ที่จะขึ้นรูป Upper เป็นชิ้นเดียวซึ่งใช้ระบบสูญญากาศโดยหนึ่งในรองเท้าที่ได้ผลิตด้วยคือ Air Max 90 VT โดย Collection นี้โดดเด่นด้วยการเล่นโทนสีเดียวเพื่อให้เห็นรายละเอียดอย่างชัดเจนและหนึ่งในตัวยอดนิยมคือ Wheat ที่มาพร้อมกันกับอีก 2 รุ่น

3 Layers in 1 Upper - Air Max 90 Hyperfuse

Nike ได้ผลิตเทคโนโลยีใหม่ที่รวมประสิทธิภาพ 3 อย่างเข้าด้วยกัน ความมั่นคง  การระบายอากาศ และ ความคงทนกับ Hyperfuse ซึ่งเริ่มต้นจากการใช้ในรองเท้าบาสเก็ตบอล และได้นำมาใช้ใน Air Max 90 เช่นกัน จุดเด่นของ Air Max 90 ตัวนี้คือมีน้ำหนักเบา ไม่อึดอัดเท้าด้วยการใช้ Hyperfuse Upper อีกทั้งรองเท้ารุ่นนี้มี Pack พิเศษที่โด่งดังมากกับ Independence Day ที่มาด้วยกันถึง 3 สีตามสีของธงชาติ และรองเท้าใน Pack นี้เองที่ได้รับความนิยมสูงมากถึงขั้นว่าเคยมีราคาต่อสีสูงถึง 30,000 บาทเลยทีเดียว

Boot + Sneakers - Air Max 90 Sneakerboot

เทรนด์รองเท้า Boot ในปี 2013 กำลังมาแรง Nike เองก็ไม่พลาดที่จะตามกระแส ณ ช่วงนั้นโดยการนำ Air Max 90 มาทำเป็นรองเท้า Boot ด้วยเช่นกัน กับการทำให้ข้อสูงขึ้น คลุมเท้าให้มากขึ้น มีหลากหลายสีให้เลือกกันรวมถึงการนำคู่สี Infrared มาใช้อีกด้วย

Lunarlon & Air Bubble - Air Max Lunar90

อีก 1 ตัวที่มาในปี 2013 เช่นกันคือ Air Max Lunar90 ซึ่งเป็นการนำพื้นแบบใหม่อย่าง Lunarlon มาใช้กับรองเท้ารุ่นนี้ เพื่อเพิ่มความสบายในการสวมใส่ ส่วน Upper เองก็ได้รับการพัฒนาเช่นกันเพื่อให้ระบายอากาศได้ดีและมีน้ำหนักเบา แต่ความสุดของรองเท้ารุ่นนี้ไม่ได้มาเพียงเท้านี้ เพราะรองเท้ารุ่นนี้ได้รับการผลิตคู่สีพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 45 ปีที่ Neil Armstong ได้เหยียบบนดวงจันทร์ ตัวรองเท้าจึงมีความพิเศามาตรงที่ลายบน Upper จะเป็นลายพื้นของดวงจันทร์อีกทั้งสะท้อนแสงได้อีกด้วย และมีรายละเอียดส่วนอื่นอย่างธงชาติสหรัฐอเมริกาที่จะแปะที่ส้นเท้าและด้วยความนิยมนี้ ทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีมูลค่าในตลาดสูงถึง 30,000 บาทเลยทีเดียว

The Whale - Air Max 90 Ultra Moire

ย้อนไปปี 2015 ถ้ายังจำได้ดี Seeker จะได้ยินคำว่า ปลาวาฬ อยู่บ่อยครั้งซึ่งคำนี้ได้มาจากรองเท้าตระกูล Air Max ทั้ง Air Max 1 และ Air Max 90 กับวัสดุแบบใหม่อย่าง Ultra Moire มีลักษณะพิเศษตรงที่มีน้ำหนักเบา เลียบไปกับเท้ามากขึ้นทำให้สวมใส่สบายและมีคู่สีที่ได้รับความนิยมหลายสีเลยทีเดียว

Air Max 90 Goes Sleek - Air Max 90 Ultra Flyknit

ในปี 2016 Flyknit เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยเรื่องความมีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงมาก อีกทั้งยังเป็นชั้นเดียวที่ให้ไม่รู้สึกแน่นเท้าจนเกินไปอีกด้วย ยิ่งทำให้ใส่สบายมากกว่าเดิม และแน่นอนว่ามีสี Infrared มาแน่นอน

Hole-In-One - Air Max 90 Golf

Air Max 90 ถือว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่ได้รับความนิยมมากตั้งแต่ปี 1990 ทำให้เป็นรองเท้าที่ถูกนำมาเป็นรองเท้าในรูปแบบอื่น ๆ และหนึ่งในนั้นคือรองเท้ากอล์ฟ ซึ่งจะต่างจากรองเท้าปกติที่ว่าพื้นจะเกาะกับหญ้าได้ดีและใช้ Zoom Midsole เพื่อการกระจายน้ำหนักอีกทั้งยังมีสี Infrared ให้เลือกอีกด้วย

The Colorful Air Max - Air Max 90 Viotech

ในยุค 2000 ต้น ๆ Nike ได้ผลิตรองเท้าแบบ Exclusive สำหรับประเทศญี่ปุ่นกับ Dunk Viotech ที่วัสดุ Upper ทำจากหนังกลับหลากหลายสีารวมกันถือว่าเป็นสินค้า Rare ณ เวลานั้นเลย และในปี 2019 Nike ก็ได้นำคู่สี Viotech กลับมาอีกครั้งแต่ไม่ได้นำมาใช้รองเท้ารุ่นเดิมอย่างเดียว ยังมีอีกรุ่นที่ได้ใช้คู่สีนี้ถึง 2 ครั้งเลยคือ Air Max 90 โดยได้ผลิตมาทั้งหมด 2 โทนสีในสไตล์เดียวกัน มีความโดดเด่นตรงที่มีสีฉูดฉาด โดดเด่นมาแต่ไกลทำให้ได้รับความนิยมทั้งสายแต่งตัวและสายสะสมที่อยากมีรองเท้าแบบ Viotech อีกคู่

The Future of Air Max 90 - Air Max 2090

เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปีของ Air Max 90 Nike ได้ออกแบบและผลิตรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุดโดยได้ไอเดียว่าจะเป็นอย่างไรถ้ารองเท้ารุ่นนี้ถูกผลิตในยุคอนาคต โดยได้นำความเป็นอนาคตมาใช้ซึ่งสิ่งที่มาใหม่คือการวางสีแบบใหม่ Air Bubble ที่ขยายใหญ่ขึ้นถึง 200% จากรุ่นดั้งเดิม ตรา Swoosh แบบไม่เต็ม Logo และความยืดหยุ่นที่มีมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ใหม่สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ แต่ยังคงความเป็น Air Max 90 ด้วย Detail ที่นำมาจากรองเท้าตัวเดิมทั้ง Mudguard Air Cassette และ Heel Logo ที่ทำให้นึกถึง Air Max 90 ในยุคดั้งเดิม ทำให้เห็นว่ารองเท้ารุ่นนี้ไม่ว่าะอยู่ยุคไหนก็ยังดูดีตลอดเวลา และในวันที่ 26 มีนาคมนี้ Seeker จะสัมผัสและจับจองรองเท้า Air Max 2090 ได้ที่ www.seekthailand.com มีทั้งของผู้ชายและหญิงเลยนะครับ

#Nike #AirMax #AirMax90 #AirMax2090 #AirMaxDay #NikeThailand #SeekOfficialTH #SeekThailand

Related Posts